Thursday, November 30, 2006

D language

พอดีเมื่อวันก่อนได้ไปอ่านที่ webboard รุ่นน้อง CP30 ได้อ่านเจอการจัดอันดับของ programming language ที่นี่ ได้ดูแล้ว เฮ้ย มีภาษาที่ขึ้นมา 13 อันดับ อยู่ที่อันดับที่ 14 นั่นก็คือ ภาษา D จึงเกิดความอยากรู้ว่ามีภาษานี้ด้วยหรออ
ภาษา D หรือ D language เป็นภาษาแบบ object-oriented ซึ่งเจ้าตัวภาษา D เป็นตระกูลเดียวกับ C ซึ่งเจ้าตัว D นี้ถูกพัฒนา ปรับปรุงมาจาก C++ ในการพัฒนานี้ได้พัฒนาให้คล้ายกับภาษา java, C# (มีหลักการ object-oriented, garbage collection) และ D language open source too

เวปที่น่าสนใจ http://www.osnews.com/story.php?news_id=6761
D language open source at http://www.dsource.org
น่าสนใจมั้ง :) http://www.dprogramming.com

Tuesday, November 28, 2006

14 best in life

1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา คือ ตัวเราเอง
The most formidable enemy in one's life is oneself

2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอวดดี
The biggest failure in one's life is self-important.

3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา คือ การหลอกลวง
The unwiset act in one's life is deceit.

4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา คือ ความอิจฉาริษยา
The most miserable act in one's life is jealousy.

5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา คือ การยอมแพ้ตนเอง
The gravest mistake in one's life is self-abundonment.

6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตของเรา คือ การหลอกตัวเอง
The most sinful act in one's life is self-deception.

7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การถดถอยของตัวเอง
The most pitiful temperament in one&rsquo's life is self-abasement.

8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะวิริยะ
The most admirable spirit in one&rsquo's life is perserverance.

9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความสิ้นหวัง
The most complete bankruptcy in one&rsquo's life is despair.

10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่าที่สุดในชีวิตเรา คือ สุขภาพที่สมบูรณ์
The greatest wealth in one&rsquo's life is health.

11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ หนี้บุญคุณ
The heaviest debt in one&rsquo's life is a debt gratitide for other's help.

12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา คือ การให้อภัยและความเมตตา
The groundest gift in one&rsquo's life is forgiveness and kindness,

13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล
The biggest shortcoming in one&rsquo's life is permissism on unreason.


14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจมากที่สุด คือ การให้ทาน
The greatest gratification in one&rsquo's life is alms giving

Tuesday, November 21, 2006

รู้จักกับผู้สร้างตำนาน “Ctrl+Alt+Delete” อันโด่งดัง

"เอาประวัติของ David Bradley มาแปะ" ..ที่มามาจาก fw mail



คอนโทรล (Ctrl) ออลติเนต (Alt) และดีลีท (Delete) คือคำสั่งยอดฮิตสำหรับจัดการกับคอมพิวเตอร์ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปรู้จักกันดี
โดยทั้งสามปุ่มนี้จะต้องกดพร้อม ๆ กัน จากนั้นระบบจะทำการบูตเครื่องใหม่ ซึ่งทั้งสามปุ่มนี้ เป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างแพร่หลายมาตลอด 10 ปีที่คอมพิวเตอร์มีบทบาทกับชีวิตของมนุษย์เรา

“เดวิด บรัดเลย์ (David Bradley)” หนึ่งในพนักงานจากยักษ์ใหญ่สีฟ้า “ไอบีเอ็ม” เขาคือผู้คิดค้นโค้ดคำสั่งดังกล่าว โดยใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาที ในการเขียนโค้ดคำสั่ง แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาได้สร้างคำสั่งที่ตรงใจผู้ใช้และจำเป็นมากที่สุดคำสั่งหนึ่งเลยทีเดียว

บรัดเลย์เข้าร่วมงานกับไอบีเอ็มเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1975 ในตำแหน่งวิศวกร ประจำอยู่ที่โบคา ราตัน รัฐฟลอริด้า จากนั้นในปี 1980 เขาคือทีมงาน 1 ใน 12 คนของไอบีเอ็มที่ปลุกปั้นคอมพิวเตอร์พีซีขึ้นมา ซึ่งนั่นทำให้เขาย้ายมาทำในส่วนของการวิจัยและพัฒนาให้กับไอบีเอ็ม

โดยในยุคเริ่มแรกของพีซีนั้น พวกเขาจำเป็นต้องออกแบบให้มันใช้งานได้ง่ายที่สุด รวมถึงวิธีการรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ ในกรณีที่มันทำงานผิดพลาด หรือเกิดแฮงค์ขึ้นมานั่นเอง และโค้ดคำสั่ง Ctrl + Alt + Delete ก็คือหนึ่งในหลาย ๆ คำสั่งที่บรัดเลย์คิดขึ้นมาได้

“ในตอนนั้นผมไม่ทราบหรอกว่ามันจะกลายเป็น คำสั่งสำคัญของคอมพิวเตอร์พีซีในอนาคต เพราะว่าผมก็ต้องคิดคำสั่งต่าง ๆ อีกมากมาย นอกเหนือจาก Ctrl+Alt+Delete แต่ปรากฏว่าคำสั่งดังกล่าวนี้ เป็นที่รู้จักมากที่สุด”

แต่ก็อาจกล่าวได้ว่า ชื่อเสียงที่โด่งดังของเขานั้น ขึ้นอยู่กับความผิดพลาดของคนสร้างโปรแกรม ว่าจะสร้างพลาดมากน้อยเพียงไร โดยเขากล่าวว่า “ผมอาจจะเป็นคนสร้างมันขึ้นมา แต่บิล เกตต์ คือคนที่ทำให้มันเป็นที่รู้จัก” ซึ่งการสรรเสริญของบรัดเลย์ต่อบิล เกตต์ครั้งนี้ ทำให้เจ้าของค่ายยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ ผู้สร้างซอฟต์แวร์Microsoft’s Windows ชื่อดังถึงกับหัวเราะไม่ออกมาแล้ว เพราะอีกนัยหนึ่งก็คือการตอกย้ำให้เห็นถึงความผิดพลาด ในการทำงานของซอฟต์แวร์ของบิล เกตต์นั่นเอง

ปัจจุบัน บรัดเลย์มีอายุ 55 ปี และได้ลาออกจากไอบีเอ็ม บริษัทที่เขาใช้เวลาร่วมด้วยนานเกือบทั้งชีวิต เป็นระยะทางทั้งสิ้น 28.5 ปีแล้ว จากนั้นรายงานระบุว่า เขาจะใช้เวลาหลังการเกษียณตัวเองในการสอน นักศึกษาให้กับมหาวิทยาลัยนอร์ท แคโรไลน่า